การจะบอกว่ารองเท้าหนังคู่ไหนมีคุณภาพดีนั้น นอกจากเรื่องดีไซน์การออกแบบแล้ว คุณภาพของหนังที่นำมาใช้ในการผลิตก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน มันคือกุญแจสำคัญที่สามารถบ่งบอกได้ว่ารองเท้าคู่ดังกล่าวมีความพรีเมี่ยมมากน้อยแค่ไหน อีกทั้งยังสะท้อนถึงความแข็งแรงทนทาน และความยาวนานของอายุการใช้งานด้วย
ด้วยเหตุนี้คำว่าหนัง Full Grain จึงเปรียบเสมือนป้ายการันตีว่ารองเท้าคู่ดังกล่าวมีคุณสมบัติที่จะเป็นรองเท้าเกรดพรีเมี่ยม มาพร้อมกับคุณภาพที่ทั้งยอดเยี่ยมและทนทาน ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น?
ในปัจจุบันมีรองเท้าหนังจำนวนไม่น้อยที่เพียงแค่เห็นแวบแรกก็รู้สึกสะดุดตากับความมันเงาของมัน ยิ่งอยู่ใต้แสงไฟ ความมันเงานั้นก็ยิ่งดูโดดเด่น ประกายสะท้อนเข้ากับสายตา จนรู้สึกอยากจับจองเป็นเจ้าของสักคู่ ทว่าจริงๆ แล้วความมันเงาของรองเท้าไม่ได้เป็นสิ่งบ่งบอกถึงคุณภาพที่ดีเสมอไป
ยิ่งรองเท้าหนังมีความมันเงามากเท่าไร ก็ยิ่งมีโอกาสสูงที่รองเท้าคู่นั้นจะทำมาจากวัสดุหนัง PU (Polyurethane Rubber) ซึ่งเป็นหนังเทียมที่ทำจากเทอร์โมพลาสติก หรือบางคู่ก็อาจจะใช้หนังจริงบางส่วนในการผลิตแต่มีการเคลือบเงาโพลียูรีเทนอยู่ด้านบน
หนัง PU ไม่ใช่สิ่งเลวร้าย เพราะในปัจจุบันนี่คือวัสดุที่นิยมนำมาใช้ในการผลิตเฟอร์นิเจอร์กันอย่างแพร่หลาย อย่างไรก็ตามการนำมาใช้เป็นวัสดุผลิตรองเท้าอาจจะไม่เหมาะเท่าไรนัก ถึงแม้หนัง PU จะมีราคาถูกกว่าหนังวัวแท้พอสมควร แต่ก็แลกมาด้วยความแข็งแรงทนทานที่น้อยกว่ามากด้วยเช่นกัน
เนื่องจากรองเท้าเป็นสิ่งที่ต้องรับทั้งแรงกระแทก น้ำหนัก น้ำ ความชื้น และสิ่งปนเปื้อนแทบตลอดเวลาที่สวมใส่ ดังนั้นรองเท้าที่ทำมาจากหนัง PU ก็จะเสื่อมสภาพลงในเวลาไม่นาน เกิดเป็นรอยแตกย่นของหนังที่สามารถเห็นได้อย่างชัดเจนด้วยตาเปล่า
นอกจากนั้นการเคลือบเงาด้วยโพลียูรีเทน ความมันเงาจะคงอยู่ได้แค่ในช่วงแรกเท่านั้น หลังจากผ่านการใช้งานไปสักระยะความมันเงาก็จะค่อยๆ ลดลงเรื่อยๆ ถึงแม้จะใช้น้ำยาขัดเงาในการดูแลรักษา แต่ก็เป็นแค่การแก้ปัญหาชั่วคราวเท่านั้น เพราะความมันเงาที่แท้จริงของรองเท้าได้หลุดออกไปแล้ว
ด้วยเหตุนี้หนัง PU และการเคลือบเงาโพลียูรีเทน จึงไม่ใช่ทางเลือกสำหรับการผลิตรองเท้าคุณภาพดี
ดังนั้นสำหรับใครที่กำลังมองหารองเท้า Oxford คู่แรกในชีวิต Cap Toe น่าจะเป็นคำตอบที่ดีและเหมาะสมที่สุด
สำหรับวัสดุหนังที่ดีและเหมาะสมที่สุดสำหรับการนำมาผลิตในส่วน Upper รองเท้า แน่นอนว่าต้องเป็นหนัง Full Grain
หนัง Full Grain คือชั้นหนังที่ดีที่สุด โดยจะอยู่ชั้นบนสุดของหนังสัตว์ ทำให้มีน้ำมันมากหากใช้ไปเรื่อยๆก็จะขึ้นเงาได้เองตามธรรมชาติ และเป็นหนังที่จะไม่ผ่านการขัดผิวชั้นบนเพื่อตกแต่ง ทำให้สามารถห็นลวดลายของหนังได้อย่างชัดเจน
มันคือเสน่ห์ที่วัสดุประเภทอื่นไม่สามารถลอกเลียนแบบได้ นอกจากนั้นหนัง Full Grain ยังเป็นหนังที่มีความทนทานและอายุการใช้งานยาวนานที่สุด สามารถป้องกันน้ำได้เป็นอย่างดี
ด้วยเหตุนี้จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่หนัง Full Grain จะมีราคาแพง และเหมาะสมที่สุดสำหรับการนำมาทำเป็นส่วน Upper สำหรับรองเท้าหนังคุณภาพสูง ยิ่งเป็นหนัง Full Grain จากวัวสายพันธุ์ที่ถูกเลี้ยงไว้เพื่อเอาหนังโดยเฉพาะ ผลลัพธ์ที่ได้ก็ยิ่งดีขึ้นไปอีกระดับ ตัวชั้นผิวหนังจะมีความหนาแต่นุ่ม รูขุมขนถี่ติดกัน
เมื่อมีวัสดุหนังที่ดีแล้ว อีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่จะขาดไม่ได้คือเทคนิคในการลงสี โดยรองเท้าหนังคุณภาพสูงจะไม่ใช้การพ่นสีหรือเคลือบเงาโพลียูรีเทน เพราะเทคนิคเหล่านี้จะทำให้สีและความันเงาอยู่คู่กับรองเท้าได้เพียงชั่วคราวเท่านั้น แต่จะใช้เทคนิคที่เรียกว่า Classic Finishing
Classic Finishing เป็นเทคนิคโบราณที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนาน ช่างที่จะใช้เทคนิคนี้ได้ต้องมีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์สูง โดยจะเป็นการเปิดรูขุมขนของหนัง Full Grain จากนั้นจึงค่อยๆ บรรจงเติมแต่งความเงามันลงไปใน โดยเลือกเฉพาะจุดที่ต้องการให้เงา ทั้งหมดนี้เพื่อให้รองเท้ามีความเงาที่ไม่เท่ากัน ความเงามันจะอยู่ในรองเท้าเป็นเวลาหลายปี ถึงแม้จะนำผ้ามาเช็ดรองเท้าก็สามารถกลับมาเงาอีกครั้งได้เสมอเพราะน้ำมันได้ซึมลงในผิวเรียบร้อยแล้ว
OLD POSH คือแบรนด์ที่เกิดจากความ Obsessed ในเรื่องรองเท้า กลั่นออกมาเป็นความทะเยอทะยานและมุ่งมั่นที่จะสร้างสรรค์รองเท้าคุณภาพดีที่สุด ดังนั้นหนัง Full Grain และเทคนิค Classic Finishing จึงเป็นสิ่งที่เราเลือกใช้กับรองเท้าทุกคู่ที่ผลิต
เราเสาะแสวงหาหนัง Full Grain จากวัวกว่า 30 สายพันธุ์ พื่อให้เจอกับสายพันธุ์ที่มีคุณภาพหนังดีที่สุด เป็นวัวที่ถูกเลี้ยงไว้เพื่อเอาหนังโดยเฉพาะ เพื่อให้ได้หนัง Full Grain คุณภาพสูง ตัวชั้นผิวหนังจะมีความหนาแต่นุ่ม รูขุมขนถี่ติดกัน ไร้ตำหนิ เหมาะที่สุดสำหรับการนำมาทำเป็นส่วน Upper ของรองเท้า
ยิ่งไปกว่านั้นด้วยความพรีเมี่ยมของหนัง Full Grain ที่เราคัดสรรมาจะทำให้หนังสามารถเปิดรับน้ำมันจากการขัดเงาด้วยเทคพิเศษของเราจากช่างฝีมือเยี่ยมมากประสบการณ์ ผลลัพธ์ที่ได้คือหนังจะดูอิ่มน้ำมัน แต่ในขณะเดียวกันก็ไม่เงาจนเกินไป
แน่นอนว่า Classic Finishing ซึ่งเป็นเทคนิคที่เราเลือกใช้นั้นเหมาะกับหนัง Full Grain ที่สุด ประกอบกับช่างที่มีฝีมือเฉพาะทางและประสบการณ์สูงกว่า 30 ปี รับหน้าที่สร้างสรรค์อย่างประณีตพิถีพิถัน
ดังนั้นผลลัพธ์ที่ได้จึงออกมาเป็นรองเท้าที่มีความสวยงามและมีคุณภาพสูงสุด ผสมผสานรวมอยู่ในคู่เดียวอย่างลงตัว สะท้อนถึง DNA ของการ Stay Obsessed ในเรื่องการเฟ้นหาวัตถุดิบที่ดีที่สุด เข้าสู่เทคนิคการผลิตที่เข้ากับวัตถุดิบชั้นนั้นที่สุด เกิดเป็นรองเท้าคุณภาพสูงสุด ของพวกเรา OLD POSH